🚩🚩 บทความวันนี้ เกี่ยวกับ การถือครองอสังหาริมทรัพย์ของคู่รัก 💕 ที่ไม่ได้ หรือไม่สามารถจดทะเบียนสมรส เป็นแฟนอยู่ด้วยกัน, คู่รักเพศเดียวกัน หรือความสัมพันธ์ไม่เปิดเผย 😅😅
🎈แรงบันดาลใจ มาจากแฟนเพจขอปรึกษา และเคสคดีที่เกิดขึ้นจริง แบบรับกัน ไม่หวาดไม่ไหว เยอะะะะะกว่าที่หลายๆคนคาด ขึ้นโรง ขึ้นศาลกันที ดราม่า น้ำตาไหลกันนองศาล 🥺🥺😭
ขออนุญาตนำ คำขอปรึกษา 1 ในหลายๆเคสที่มาปรึกษา มาปรับเล่าให้ฟังครับ (ขออภัยล่วงหน้า ให้คิดว่าเป็นความรู้นะครับ🙏🙏)
👩🦰Q: ขอปรึกษาคะ อยู่ด้วยกันกับแฟน แล้วซื้อคอนโดด้วยกัน กู้ธนาคาร ช่วยกันผ่อน แต่ใส่ชื่อแฟนคนเดียว ต้องทำสัญญายังไงคะ เผื่อเลิกกัน หรือเขาเป็นอะไรขึ้นมา จะได้มีทรัพย์ มีหลักประกัน
🤵 ทนายบ้านและคอนโด : จดทะเบียนสมรสกัน หรือเปล่าครับ?
👩🦰Q: ไม่ได้จดคะ แฟนเป็นเพศเดียวกัน ทางพนักงานขายโครงการแนะนำให้ทำสัญญาอะไร สักอย่าง จะได้เป็นหลักประกัน
🤵 ทนายบ้านและคอนโด : ทำได้ครับ แต่ไม่แนะนำ เพราะทำไป ถ้าเกิดแยกทางกันขึ้นมา ก็บังคับใช้ลำบาก ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล เพื่อบังคับใช้สัญญา และพอเป็นอสังหาริมทรัพย์ การจดนิติกรรม กรณีอย่างนี้ ต้องใช้คำสั่งศาล
(คือ ถ้าทีมทนายบ้านและคอนโด รับงานร่าง ก็สามารถคิดเงินค่าร่างสัญญา แบบที่สำนักงานกฎหมาย ทั่วไปทำ ก็ได้ หรือจะวางสนุ้กไว้ พอเกิดเป็นคดีขึ้นมา ก็ต้องมาว่าจ้างทนายที่ทำสัญญา แต่อะไร ครึ่งๆกลางๆ จะเกิดปัญหา เป็นคดีรกศาลกันทีหลัง แบบนี้ นโยบาย ทางทีมทนายบ้านและคอนโด จะอธิบายข้อเท็จจริงให้ทางลูกความทราบก่อนครับ 😅😅)
📌📌 อย่างที่บอกครับ กรณี อสังหาริมทรัพย์ อย่างนี้ ผู้มีชื่ออยู่หลังเอกสารสิทธิโฉนด มีความได้เปรียบสูงมาก เพราะการจะไปปรับเปลี่ยน หรือยกเลิกนิติกรรมที่ทำไปแล้ว ที่สำนักงานที่ดิน ถ้าคู่กรณีไม่เต็มใจ ต้องทำภายใต้ “คำสั่งศาล” เท่านั้น!! 💘💘 แปลว่า ต้องนำสัญญาขึ้นสู่ศาล และขอบังคับใช้เท่านั้น !!
และ พอเป็นเรื่องของสัญญา ก็ต้องไปตีความสู้กัน ตามกระชอนนิติกรรม (ม.149) สัญญาจะสมบูรณ์ ต้องประกอบด้วย
(บอกก่อน จริงๆ เรื่องนี้ เป็นวิชาหนึ่งของนิติศาสตร์เลย เนื้อหาละเอียดจะเยอะมา และงงกันมาก แอดฯ ขอยกเฉพาะที่เกี่ยวข้องหลักๆของเคสนี้ ซึ่งมักหยิบยกมา ในชั้นศาล ตีความถูก หรือไม่ ไม่รู้ รู้แต่คู่ความ หยิบมาสู้ แล้วพิสูจน์กัน 😅😅)
- เจตนา และวัตถุประสงค์ ต้องถูกต้องและชัดเจน แต่ที่ถูกหยิบยกขึ้นมาบ่อยๆ
✨ สำคัญผิด (ม.156, 157, 158) : ตอนทำสัญญา เข้าใจในตัวโจทก์ผิด คิดว่าเขารักเรา จะซื่อสัตย์ มีเราคนเดียว จะดูแลเรา แต่เขาก็ทิ้งเราไป มีกระทั้ง เข้าใจว่าเป็นผู้หญิง จริงๆ (เอิ่มมม…อันนี้ ก็เคยเกิดขึ้นจริง สัญญาเป็นโมฆะครับ ก็ต้องไปพิสูจน์ ว่าตอนอยู่ด้วยกัน ไม่รู้จริงๆ สืบพยานกันมันส์ทีเดียว ประหนึ่ง เล่าเรื่องหนัง 20+ 😅😅😅
✨ ข่มขู่ (ม.166) : ตอนคบกัน โจกท์ข่มขู่ ถ้าไม่ทำสัญญาจะทุบตีจำเลย จะเลิกคบ เลิกรัก และไปจากจำเลย จำเลยถึงต้องจำใจทำสัญญา
- แบบ ต้องถูกต้องตามกฎหมาย หากมีระบุไว้ เช่น สัญญาจะซื้อจะขาย ต้องถูกต้อง ตามแบบของกรมที่ดิน ทะเบียนสมรส รับรองบุตร ทำ และจดทะเบียน ต่อเจ้าพนักงาน
- ความสามารถ ต้องเป็นผู้ที่มีความสามารถทำสัญญา และนิติกรรมได้ ไม่ใช่ผู้หย่อนความสามารถ (ไม่ใช่หย่อนสมรรถภาพ คนละเรื่องนะพี่น้อง 😓😓) ผู้หย่อนความสามารถ มี 4 ประเภท ผู้เยาว์, คนวิกลจริต, คนไร้สามารถ (ศาลสั่ง), และคนเสมือนไร้ความสามารถ
🚩 มาตรา 153–“การใดมิได้เป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมายว่าด้วยความสามารถของบุคคล การนั้นเป็นโมฆียะ” 🧐🧐🧐
✨ คนวิกลจริต ตามกฎหมายมิได้หมายถึง คนที่เป็นบ้า ตามแบบที่ต้องอาศัยการวินิจฉัยทางแพทย์ เท่านั้น แต่หมายถึงสภาพจิตที่ไม่ปกติ ขณะทำนิติกรรม หรือทำสัญญา 🤔🤔
🚩 มาตรา 30 การใดอันบุคคลวิกลจริตซึ่งศาลยังไม่สั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถได้กระทำลง การนั้นจะเป็นโมฆียะต่อเมื่อได้กระทำในขณะที่บุคคลนั้นจริตวิกลอยู่ และคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งได้รู้แล้วด้วยว่าผู้กระทำเป็นคนวิกลจริต
จำเลยต่อสู้ว่า ขณะทำสัญญากับโจทก์ จำเลยมีสภาพจิตใจที่ไม่ปกติ รักโจทก์ หัวปักหัวปรำ ไม่อยู่ในสภาพที่จะตัดสินใจได้อย่างปกติ เข่าข่ายเป็นคนวิกลจริต และโจทก์ ก็ทราบว่า จำเลยรักโจทก์ขนาดไหน (เอาเข้าไป 😅😅 ยกแบบนี้มาให้ศาลฟัง ก็ได้ แต่แปลก เมืองนอก ก็มีคนอ้างแบบนี้ ไม่เชื่อ ลองถามเฮียโจว ได้ 😁😁😁)
🎈🎈🎈 ลองนึกภาพ การต่อสู้บนชั้นศาล ในกรณีต้องบังคับใช้สัญญานะครับ สัญญาไม่ว่าจะเขียนดี เขียนรัดกุม ยังไง สุดท้าย เวลามีเรื่องกัน ก็หนีไม่พ้นประเด็นที่ต้องโต้เถียงกันแบบนี้ ดูไม่จืดเลยนะครับ ท่านผู้ชม 😓😓 (หลายครั้ง แอบเห็นศาลกุมขมับ นั่งเซ็ง เพราะต้องมานั่งฟังนิยายรัก 3 บาท กันทีเดียว)
💖💖 กรณีการฟ้องร้องเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ในลักษณะแบบนี้ ตามประสบการณ์ โดยทั่วไป มี 2 แบบ
- สายเปย์ โอนให้เขาไปหมด กลัวเขาไม่รัก ทั้งบ้าน ที่ดิน คอนโด รถหรู นาฬิกาปาเต๊ะ (แค่หมูสะเต๊ะ ก็ไปกับเขาแล้ว ทนายในทีมบางคน ได้กล่าวไว้ 555 😁😅) แล้วไม่รู้เป็นไง คู่กรณี ก็ชอบเห็นเหมือนคนให้เป็นกระสอบทราย แล้วสุดท้าย ก็ทิ้งกันไป 😭😭 ก็ต้องฟ้องขอคืน ด้วย “ประพฤติเนรคุณ” ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 531
โอกาสได้คืน 30 – 70% อยู่ที่การตั้งเรื่องและนำสืบกัน ถ้ามีประเคนหมัด เข่า ศอก พร้อมใบรับรองแพทย์ ก็จบ 😅🤔
- สายถูกเอาเปรียบ ถูกหลอกใช้ ทรัพย์อยู่ในชื่อจำเลย ทั้งหมด แต่มีสัญญาใจ หรือสัญญาระหว่างกัน โจทก์ ก็จะกล่าวอ้าง เหมือนที่ แอดฯ เล่ามาข้างต้น
โอกาสบังคับให้ทำตามสัญญา 20% แต่ 80% จะจบที่ไกล่เกลี่ย แล้วจำเลย มักจ่ายค่าเสียหาย ค่าทำขวัญ จำนวนหนึ่ง แล้วถอนฟ้อง 🤔🤨🤨
🧨🧨แอดฯ เคยพบมืออาชีพด้านนี้เลย พี่เป็นคนร่ำรวย แต่ชอบหลอกคบผู้หญิง ทำเป็นซื้อรถ อสังหาฯ บ้าน และคอนโดให้ แต่อยู่ในชื่อตัวเองทั้งหมด มีสัญญามาตรฐานให้ แล้วใช้ผู้หญิงทำงาน ประหนึ่งลูกจ้าง ผ่านไปสักพัก ก็เลิก แล้วคบคนใหม่ เข้า loop เดิม ไปเรื่อยๆ พอเรื่องขึ้นชั้นศาล ก็ไกล่เกลี่ย เอาเงินฟาดหัวให้จำนวนหนึ่ง 😎😎 ไม่รู้เจตนา หรือเปล่า? แต่ 2-3 รอบนี่ เริ่มสงสัย 😅
💘💘✨ สรุป แล้วทำยังไงดี ล่ะ? อย่างที่หัวข้อวางไว้ครับ ปลอดภัย และแฟร์ๆ ไม่ต้องเป็นคดีความ ไม่ต้องไปบีบน้ำตากับศาลกัน ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์ ควรใส่ชื่อคู่กัน หลังเอกสารกรรมสิทธิ์ ถ้าต้องจำนอง กู้ธนาคาร ก็ใส่ชื่อเป็นผู้กู้ร่วมไป (ถึงเงินจะไม่ได้ออก ก็เถอะ) เวลามีปัญหา ก็ขาย แล้วแบ่งตามสัดส่วนกรรมสิทธิ์ ไปเลย 😁😁😁 (แต่กรณีบ้านเล็ก บ้านน้อย พ่อบ้านจะใจกล้าพอไหม? ก็ต้องลองดู)
🚩🚩 แต่ถ้าพลาดไปแล้ว Inbox ปรึกษา ศิราณี …เอ้ยยย ทีมทนายบ้านและคอนโดได้ เรามีทนายผู้ชำนาญการ ผ่านสนามรบสนามรัก (ของคนอื่น) มาอย่างโชกโชน 555 😁😁
หวังว่า บทความนี้จะมีประโยชน์กับทุกท่าน โปรดกด Like และติดตาม เป็นกำลังใจให้แอดฯ และทีมงาน ด้วย 😘😘
💖💖💖 ทนายบ้านและคอนโด 💖💖💖
ตัวจริง…รู้จริง เรื่องกฎหมายอสังหาริมทรัพย์
ดูแลคุณด้วยใจ ปกป้องสิทธิให้คุณด้วยกฎหมาย