เมื่อไหร่ คุณต้องใช้ทนายบ้าน และคอนโด?

จากบทความก่อนๆ สมาชิกทุกท่าน คงจะทราบแล้วว่า โดยปกติ เมื่อเรื่องมาถึง ทนายความ การเดินเรื่องจนได้ เงินคืน ปกติ ใช้เวลา 2-3 เดือน ประเด็นที่ ควบคุมไม่ได้ คือ เวลานัดหมายของศาล โดยสถานการณ์ปกติ ศาลจะใช้เวลานัดหมาย ภายใน 1 เดือน หลังจากยื่นคำร้อง แต่ช่วงโควิด-19 ทำให้ตารางนัด ยิ่งที ยิ่งนานออกไป 2 – 3 เดือนบ้าง แต่เมื่อถึงกำหนดนัดหมาย ส่วนใหญ่ เรื่องแทบจะจบแน่นอน และไม่มีเคสไหน? จบที่ถูกยึดเงินทั้งหมด 🤔😉

แต่จากประสบการณ์ให้คำปรึกษา ท่านสมาชิกหลายท่าน ปรากฎว่า สิ่งที่นานกว่า กระบวนการข้างต้น คือ …. ระยะเวลากว่าที่ ท่านสมาชิกจะเข้าใจสถานการณ์ ซึ่งหลายเคส ใช้เวลาไปแล้ว 5-6 เดือน หรือเป็นปี บอบช้ำกันมา💔💔💔 เช่น

  1. การเจรจากับ Sale ที่ขายให้, มองโลกในแง่ดี รอส่งเรื่องให้ผู้ใหญ่ ผู้บริหาร
  2. หลังจากรอมานาน จนเหงือกแห้ง โครงการให้ ตัดสินใจกับตัวเลข หักคอ คืน 50% ของเงินดาวน์
  3. ให้โครงการไปขายต่อ รอเขาขายได้ ค่อยเอามาคืน บางเคส ไปทำสัญญาแบบไม่กำหนดเวลา และโครงการขายยังไม่หมดด้วย 😅 —> แสบกว่า!! คือ มีคนจะซื้อสัญญาแล้ว แต่โครงการ ดันไม่ให้ขาย ซะนี่ 😮😮😮
  4. ไปทางเลือก สคบ. ที่กว่าจะนัด Developer มาคุย นานกว่านัดศาลอีก นัดแล้วก็ ไม่มา ให้ช้ำใจ และแทนที่จะเข้าข้างเรา ดันมาต่อรองแทน Developer แล้ว Developer มาพลิก กดเงื่อนไขไปอีก เลือดสาด กลืนเลือด กันทีเดียว มาถึงทนายแล้ว โคตรบอบช้ำ 😥😥😥
    และอื่นๆ อีกมากมาย มีกระทั้ง ขอ Print เอาบทความของทนายบ้าน และคอนโด ไปทำความเข้าใจกับ Sale โครงการ ก่อน 😲😲😲
    เฮ้ย!!! มีจริงๆนะเนี่ย เอามาบอกกันด้วย ทนายอึ้งกันไปทีเดียว ต้องรีบเบรกกันเลย แอดฯไม่แนะนำให้ทำเด็ดขาดนะครับ!!! – ประเด็น ไม่ใช่เพราะทนายกลัวไม่ได้เงิน แต่อันตรายกับท่านสมาชิกเอง เคสมันบางที ต่างกรรมต่างวาระ ต่างสัญญานะครับ แอดฯ ขอบอกก่อน และมันมีวิธีแก้ทางกันอยู่ ด้วยเทคนิคของกฎหมาย และจิตวิทยากดดันจากโครงการ รวมไปถึงการทำสัญญา ข้อตกลงปากเปล่าที่เขาอาจอัดไว้ หรือถ่ายคลิปไว้ ทำให้ท่านสมาชิก เสียเปรียบเขาได้ 🤔😕😕
    กลายเป็นว่า ความหวังดีของเพจทนายบ้าน และคอนโด ที่ต้องการให้ความรู้ด้านกฎหมายอสังหาฯ ให้ท่านสมาชิกเลือกหนทางที่ดีที่สุดกับตัวเอง ไม่ถูกเอาเปรียบจากโครงการ และจากกลุ่มคนที่อ้างเป็นทนาย กลายเป็นความหวังดีของเรา กลับไปทำร้ายแฟนเพจของเราเอง 😥😥😥
    สมาชิก หลายท่านในนี้ ก็เป็น Developer, ระดับผู้บริหาร หรือ Sale โครงการ เขาทราบเรื่องอยู่แล้ว (ฮั่นแน่!!😁 เรารู้นะ ว่าพวกท่านตามอ่านกันอยู่) ท่านสมาชิก ไม่ต้องเอาบทความของเพจไปอธิบายเขาหรอก เขาเจอเคสเยอะกว่าท่านสมาชิกอีก รู้หมดทุกกระบวนท่า ไปอธิบาย ก็เหมือนสอนหนังสือสังฆราช ครับ 😅😅😅
    🚩🚩🚩 ดังนั้น แอดฯ ขอสรุป ข้อเท็จจริง และความเข้าใจที่ถูกต้อง และสถานการณ์บางอย่าง ที่ท่านสมาชิก ควรต้องใช้ทนาย ดำเนินการแทน จะได้ไม่เสียเวลา และไม่ถูกเอาเปรียบ ‼
  5. เจรจาขอเงินคืนกับโครงการ รับเรื่อง แต่ไม่ตอบ ไม่มีกำหนด ไม่มีจำนวนเงินที่คืน สักที เกิน 1 เดือน ไปแล้ว – โดยเฉพาะ ถ้าคุณคุยเฉพาะกับพนักงานขาย อยากบอกว่า ส่วนใหญ่ เสียเวลาเปล่า เพราะถ้ารีบเดินเรื่อง จะกลายเป็นเขาหั่นยอดขายของตัวเอง ยื้อไปนานๆ จนเหนื่อย ก็อาจเปลี่ยนพนักงานขาย ย้ายโครงการ หรือย้ายงาน ถ้าไม่ถึงผู้บริหารระดับสูง เจ้าของตัวจริง น้อยครั้งครับ ที่จะจบ หลายที่มีนโยบาย ให้พนักงานเป็นหนังหน้าไฟอยู่แล้ว 😐😐
    ต้องขอชม หลายๆ Developer ที่อบรมพนักงานให้ตอบรับลูกค้า ได้นุ่มนวลขึ้น (แต่ไว้ลาย ไว้เช่นเดิม เรารู้นะ 😁) จากเดิม พนักงานมักตอบ “ไม่คืนทุกกรณีคะ”, “ตามสัญญาไม่คืนคะ”, หรือกระทั้ง “อยากได้ เชิญไปฟ้องเลยคะ” ช่วงนี้ … กลายเป็น “ขอรับเรื่องไว้ก่อนนะคะ”, “รอผู้ใหญ่พิจารณาก่อน”, “ยื่นเรื่องไปแล้วคะ รอสักหน่อย” ……. ไปกันยาวๆๆๆๆๆ 😐😐😑
  6. Developer ไม่ได้เลวไปหมด ไม่ได้ ดี หรือเลวตลอด ต่างกรรม ต่างวาระ ครับ … ต้องเข้าใจ คนทำมาค้าขาย เป็นปกติ วันนี้ เขาคุย หรือคืนง่าย พรุ่งนี้ เขาอาจคืน หรือคุยยาก อยู่ที่นโยบาย และสถานการณ์ว่า สถานะการเงินเป็นอย่างไร? ข้อสัญญาที่ทำกับท่านสมาชิก ต่างกับคนอื่นไหม?
    ทีมทนายบ้าน และคอนโด เราไม่แนะนำให้ใคร ผูกใจเจ็บ จงเกลียดจงชัง Developer เพื่อให้เกิดการฟ้องร้อง หรือเพื่อความสะใจครับ การยื่นเรื่องต่อศาล คือ กระบวนการที่ดำเนินการตามขั้นตอนปกติครับ 🙂
    ทนายบางคนเคยคุย เจรจา Developer รายนี้ง่าย แต่คนเดียวกัน คนละเคส ก็อาจคุยยาก คุยโม้มากๆ ว่าค่ายนี้คืนตลอด เขาหมายหัวไว้ ไม่คืน ดึงเรื่องยาวๆ ก็มี ทนายฟันธงไป หน้าแตก ลำบากลูกความ เปล่าๆ
    เพื่อประโยชน์ของท่านสมาชิก เมื่อต้องการขอเงินคืน ทางเพจทนายบ้าน และคอนโด จะแนะนำให้ลองคุยกับโครงการก่อน ดูนโยบาย แต่ไม่จำเป็นต้องโกรธ ต้องทะเลาะกันครับ ให้คุยเป็นเรื่องปกติ ของการทำมาค้าขาย ไม่ได้แค้นกัน แต่ชาติปางไหน? โดยเฉพาะฝ่ายขาย / ฝ่ายโอน จำไว้ว่า พนักงานทำตามหน้าที่ครับ ไม่มีประโยชน์ที่จะใส่อารมณ์ หรือทะเลาะกัน เสียสุขภาพจิต เปล่าๆ 🙂😅
    ถ้าเขารับเรื่องจะยื่นเสนอผู้บริหารให้ ก็ให้กำหนดเวลาไปเลยครับ ภายใน 1 เดือน ขอข้อสรุป ถ้าไม่ได้กำหนดเวลา หรือมูลค่า ก็ดำเนินเรื่องต่อไปเถอะครับ อย่าเสียเวลา และไม่ทะเลาะ ไม่โกรธกัน 🙂
  7. ถ้า เดินเรื่อง สคบ. คุณไม่จำเป็นต้องจ้างทนาย แต่ถ้ากำหนดนัดเจรจาเกิน 2 เดือน หรือนัดแล้วไม่มา อย่าเสียเวลาให้เรียกอีกรอบ ปรึกษาทนายเถอะครับ 😅 – อย่างน้อย ให้ทำหนังสือบอกเลิกสัญญา เพื่อหยุดความเสียหายไว้ก่อน
  8. เมื่อเราดำเนินเรื่องยื่นบอกยกเลิกสัญญา โดยทนายความ โดยทฤษฎี เราจะไม่มีสิทธิเอาสัญญาไปขายต่อ แต่ถ้ากรณี เกิดมีคนจะมาซื้อจริงๆ ให้พยายามเจรจารับมัดจำ เซ็นสัญญาให้เรียบร้อย ก่อนไปเจรจากับโครงการ ครับ 🙂
    ผู้ประกอบการทุกคน อยากโอนมากกว่า ยึดเงินจอง และเงินดาวน์ เพราะ เงินโอน คือ รายได้หลักอยู่แล้ว ส่วนมาก Developer จะยอม (เคยเจอไม่ยอม เพราะไปทะเลาะกันมาก่อน หรือราคามันไปไกลแล้วจริงๆ Developer ไม่ยอมให้ขายตัดราคา) แต่ความเสี่ยงจะอยู่ที่เราครับ เพราะไปถอนเรื่องออก แล้วถ้าเจอคนซื้อไม่จริง หรือเป็นตัวแทนของโครงการมาล่อซื้อ เพื่อให้ถอนเรื่อง หรือไปทำข้อตกลงพิเศษกับโครงการ ความยากจะอยู่ที่เราทันที 😅
  9. การที่ท่านสมาชิก ขอเงินคืน หรือเลิกสัญญา ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร? เป็นเรื่องปกติครับ ทุกคนมีความจำเป็น ไม่ต้องรู้สึกผิด เกรงใจกับ Developer หรือ Sale ส่วนค่าปรับ ค่าเสียหาย ถ้าเราผิดสัญญา มันต้องเสียบ้าง คือ เงินจอง และทำสัญญา แต่ไม่ใช่ ทั้งหมด – ถ้าคุณรู้สึกเกรงใจ หรือเห็นใจ ควรปรึกษา และใช้ทนาย ออกหน้าแทน ไม่ควรเผชิญหน้าโดยตรง เพราะจะโดนกดดัน จนคุณเสียเปรียบ 😣😣
  10. เคสให้โครงการเอาไปขายให้ ถ้าขายได้ จะเอาเงินมาคืนให้? หรือฝากโครงการขาย น้อยครั้งที่จะเกิดขึ้นจริงครับ ยกเว้น ราคาปัจจุบัน ต่างกันมากกับที่เราซื้อ และ Sale ทำกิจการส่วนตัว เอากำไรส่วนต่างเอง เพราะโดยมาก Developer ไม่เอามาขายตัดราคาของสินค้าที่ค้าง Stock ทำให้มูลค่าตก
    เคยมีเคสที่ไปตกลงกับโครงการ ตอนนี้ รอมาจะ 2 ปีแล้ว ยังไร้วี่แวว เพราะขนาดห้องของโครงการเอง ยังเหลืออีกเพียบเลย เมื่อไหร่? จะถึงคิวขายให้เราหนอ? 🤔🤔🤔

จากที่เล่ามาข้างต้น จะเห็นได้ว่า สิ่งสำคัญ คือ เรื่องของเวลา (ทั้งความยาวของการดำเนินเรื่อง และเวลาที่เราต้องเสียไปเปล่าประโยชน์ ให้เจ็บช้ำใจ), เงื่อนไขการคืน, และที่สำคัญ สภาพจิตใจที่ดีของเรา และคนรอบข้าง ครับ 😊😊😊

ดังนั้น ขอให้ท่านสมาชิก ใช้ใจ 💖💖💖 พิจารณาสถานการณ์ของตัวท่าน และเลือกการดำเนินการที่เหมาะสมครับ 🥰

ไว้ ถ้ามีเพิ่มเติม เคสแปลก แอดฯ จะเอามาเล่าสู่กันฟังอีก 😉

หาก ท่านสมาชิก มีปัญหาข้อสงสัย สามารถนัดปรึกษา ทนายบ้าน และคอนโด ทาง Inbox ได้ครับ ครั้งแรก ไม่มีค่าใช้จ่าย 🙂😁
💖💖💖 ทนายบ้าน และคอนโด 💖💖💖
“ดูแลคุณด้วยใจ ปกป้องสิทธิให้คุณด้วยกฏหมาย”

Scroll to Top